Search for content in this blog.

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ตำนานเดชนางพญางูขาว

ตำนานเดชนางพญางูขาว

ตำนานนางพญางูขาว คือนิทานพื้นบ้านของชาวเมืองหางโจวที่มีอายุมากกว่า 400 ปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นวรรณกรรมอมตะเรื่องหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ โดยถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเวอร์ชั่นที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมก็คือ Madam White Snake ปี 1962 ที่สร้างโดยสตูดิโอยักษ์ใหญ่ ชอว์ บราเดอร์ นำแสดงโดย เจ้าหลุย และ หลินไต้ ผู้รับบทนางพญางูขาว และ Green Snake ปี 1993 กำกับโดย ฉีเคอะ นำแสดงโดย หวังจู่เสียน ในบทนางพญางูขาว และ จางม่านอวี้ ในบทนางพญางูเขียว

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• นี่เป็นการกลับมารับบทในหนังแอ็คชั่นจากจีนอีกครั้งของ เจ็ท ลี นับตั้งแต่ The Warlords โดยเขาแสดงเป็น ฝาไห่ พระเถระที่ยึดมั่นในกฏสวรรค์ว่าคนไม่สามารถอยู่ร่วมกับอสูร โดยเขาพูดถึงการแสดงฉากต่อสู้ในหนังเรื่องนี้ว่า "ผมต้องสู้กับงูขาว จากนั้นก็ต้องสู้กับงูเขียว และต้องสู้กับอสูรตัวอื่นๆ และยังต้องสู้กับพรายน้ำ ทุกวันที่ผมเข้าฉากก็คือการต่อสู้ บางครั้งก็ต้องเป็นการต่อสู้ที่คุณต้องจินตนาการว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น นี่เป็นงานที่ผมรู้สึกเหนื่อยกว่าการทำงานในฮอลลิวู้ดซะอีก แต่ผมก็คิดว่าเราทำกันได้อย่างยอดเยี่ยม"

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• บทบาทที่นักแสดงระดับตำนานอย่าง หลินไต้, หลินชิงเสวีย และ หวังจู่เสียน เคยแสดงมาแล้ว นางพญางูขาว เวอร์ชั่น 2011 ก็ตกเป็นของหวงเซิ่งอี นางเอกสาวจาก Kung Fu Hustle โดยเธอต้องฝึกเพื่อการแสดงในฉากต่อสู้และการใช้สลิงค์นานกว่าหนึ่งเดือน เธอเล่าถึงประสบการณ์ว่า "ฉันต้องพยายามเพื่อทำให้คนดูรู้สึกว่า ฉันมีความตั้งใจเต็มที่ในการรับบทเป็นตัวละครที่สำคัญต่อโลกวรรณกรรม ฉันคิดว่านางพญางูขาวเป็นเรื่องราวของความรักที่งดงามและลึกซึ้ง และฉันก็ดีใจที่พวกเรามีทีมงานและทีมนักแสดงที่จะทำให้เวอร์ชั่นนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทศวรรษใหม่”

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• หนังเรื่องนี้มีทีมงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชุยป๋อชู ผู้อำนวยการสร้าง Crouching Tiger Hidden Dragon และ Kung Fu Hustle, ผู้กำกับภาพ วินเซนซ์ คุง (One Nite In Mongkok, Protege), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย วิลเลี่ยม ชาง (2046, In The Mood For Love) รวมถึงผู้กำกับ/ผู้กำกับคิวบู๊ เฉินเสี่ยวตง ที่เคยมีผลงานหนังแอ็คชั่น-แฟนตาซีคลาสสิกมาแล้ว เช่น เดชคำภีร์เทวดา ภาค 2,โปเยโปโลเย ภาค 1 และ 3 และอำนวยการสร้างหนังอนย่าง จอมใจบ้านมีดบิน และ จอมใจบัลลังก์เลือด โดยเขาพูดถึงการทำงานในหนังเรื่องนี้ว่า "ผมอยากให้ นางพญางูขาว เวอร์ชั่นของเรามีความร่วมสมัยและดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม ตัวละครของ สี่เซียน ก็ไม่ใช่ผู้ชายขี้ขลาดอีกต่อไป ในขณะที่นางพญางูขาวก็มีความอ่อนไหวมากขึ้น ผมอยากให้คนดูรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองมีความรักที่จับต้องได้จริง ขณะเดียวกันในฉากแอ็คชั่น ผมเคยร่วมงานกับ เจ็ท ลี มาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เดชคำภีร์เทวดา ภาค 2, Hero หรือ The Warlords ความเข้าใจกันดีอยู่แล้วก็ทำให้พวกเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้มากขึ้น"

.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

ตำนานเดชนางพญางูขาว

ตำนานเดชนางพญางูขาว

ตำนานนางพญางูขาว คือนิทานพื้นบ้านของชาวเมืองหางโจวที่มีอายุมากกว่า 400 ปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นวรรณกรรมอมตะเรื่องหนึ่งของเอเชียอาคเนย์ โดยถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเวอร์ชั่นที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมก็คือ Madam White Snake ปี 1962 ที่สร้างโดยสตูดิโอยักษ์ใหญ่ ชอว์ บราเดอร์ นำแสดงโดย เจ้าหลุย และ หลินไต้ ผู้รับบทนางพญางูขาว และ Green Snake ปี 1993 กำกับโดย ฉีเคอะ นำแสดงโดย หวังจู่เสียน ในบทนางพญางูขาว และ จางม่านอวี้ ในบทนางพญางูเขียว

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• นี่เป็นการกลับมารับบทในหนังแอ็คชั่นจากจีนอีกครั้งของ เจ็ท ลี นับตั้งแต่ The Warlords โดยเขาแสดงเป็น ฝาไห่ พระเถระที่ยึดมั่นในกฏสวรรค์ว่าคนไม่สามารถอยู่ร่วมกับอสูร โดยเขาพูดถึงการแสดงฉากต่อสู้ในหนังเรื่องนี้ว่า "ผมต้องสู้กับงูขาว จากนั้นก็ต้องสู้กับงูเขียว และต้องสู้กับอสูรตัวอื่นๆ และยังต้องสู้กับพรายน้ำ ทุกวันที่ผมเข้าฉากก็คือการต่อสู้ บางครั้งก็ต้องเป็นการต่อสู้ที่คุณต้องจินตนาการว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้น นี่เป็นงานที่ผมรู้สึกเหนื่อยกว่าการทำงานในฮอลลิวู้ดซะอีก แต่ผมก็คิดว่าเราทำกันได้อย่างยอดเยี่ยม"

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• บทบาทที่นักแสดงระดับตำนานอย่าง หลินไต้, หลินชิงเสวีย และ หวังจู่เสียน เคยแสดงมาแล้ว นางพญางูขาว เวอร์ชั่น 2011 ก็ตกเป็นของหวงเซิ่งอี นางเอกสาวจาก Kung Fu Hustle โดยเธอต้องฝึกเพื่อการแสดงในฉากต่อสู้และการใช้สลิงค์นานกว่าหนึ่งเดือน เธอเล่าถึงประสบการณ์ว่า "ฉันต้องพยายามเพื่อทำให้คนดูรู้สึกว่า ฉันมีความตั้งใจเต็มที่ในการรับบทเป็นตัวละครที่สำคัญต่อโลกวรรณกรรม ฉันคิดว่านางพญางูขาวเป็นเรื่องราวของความรักที่งดงามและลึกซึ้ง และฉันก็ดีใจที่พวกเรามีทีมงานและทีมนักแสดงที่จะทำให้เวอร์ชั่นนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทศวรรษใหม่”

ตำนานเดชนางพญางูขาว

• หนังเรื่องนี้มีทีมงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชุยป๋อชู ผู้อำนวยการสร้าง Crouching Tiger Hidden Dragon และ Kung Fu Hustle, ผู้กำกับภาพ วินเซนซ์ คุง (One Nite In Mongkok, Protege), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย วิลเลี่ยม ชาง (2046, In The Mood For Love) รวมถึงผู้กำกับ/ผู้กำกับคิวบู๊ เฉินเสี่ยวตง ที่เคยมีผลงานหนังแอ็คชั่น-แฟนตาซีคลาสสิกมาแล้ว เช่น เดชคำภีร์เทวดา ภาค 2,โปเยโปโลเย ภาค 1 และ 3 และอำนวยการสร้างหนังอนย่าง จอมใจบ้านมีดบิน และ จอมใจบัลลังก์เลือด โดยเขาพูดถึงการทำงานในหนังเรื่องนี้ว่า "ผมอยากให้ นางพญางูขาว เวอร์ชั่นของเรามีความร่วมสมัยและดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม ตัวละครของ สี่เซียน ก็ไม่ใช่ผู้ชายขี้ขลาดอีกต่อไป ในขณะที่นางพญางูขาวก็มีความอ่อนไหวมากขึ้น ผมอยากให้คนดูรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองมีความรักที่จับต้องได้จริง ขณะเดียวกันในฉากแอ็คชั่น ผมเคยร่วมงานกับ เจ็ท ลี มาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เดชคำภีร์เทวดา ภาค 2, Hero หรือ The Warlords ความเข้าใจกันดีอยู่แล้วก็ทำให้พวกเราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้มากขึ้น"

.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

หาเงินกับAdf.ly






Adf.ly คือ เว็บที่ทำการครอบลิ้งค์ต่างๆในเว็บฝากไฟล์ของเราให้กลายเป็นลิ้งค์ของเว็บ Adf.ly
ซึ่งเมื่อมีคนคลิ๊กลิ้งค์คุณก็จะได้ค่าตอบแทนจาก Adf.ly ทันที่

ส่วนการคลิกนั้น ประมาณ 2500 visits ต่อ 1$ สำหรับในไทยคลิ๊ก ถ้าเป็นต่างประเทศอาจจะสูงกว่านี้ ซึ่งเว็บนี้ก็ จ่ายขั้นต่ำที่ $5 ทาง PayPal จ่ายทุกวันจันทร์แรกของเดือน
เป็นงานที่ง่ายๆเพราะว่าลิ้งค์มีมหาศาล เพียงแต่ลิ้งค์ที่นำมาแปลงเป็นลิ้งที่น่าสนใจในหลายๆคน
แล้วคุณจะได้ยอดที่เยอะพอสมควรเลยทีเดียว

วิธีสมัครเว็บ Adf.ly

ขั้นที่1





ขั้นที่2

1.ใส่ Username ชื่อที่คุณตั้งขึ้นเอง
2.ใส่ E-mail ที่คุณใช้อยู่จริงเพราะ Adf.ly จะส่งลิ้งยืนยันไปทางเมล์
3.ยืนยัน E-mail ที่กรอกใน ข้อ 2.อีกครั้ง
4.ใส่ Username ชื่อที่คุณต้องการให้แสดง
5.ใส่ Password รหัสที่คุณตั้งขึ้นเอง
6.ยืนยัน Password รหัสที่คุณใส่ในข้อ 4. อีกครั้ง
7.เลือก Link Shrinker ........................
8.ใส่รหัสโค๊ดที่ให้มา ใส่ให้ถูกต้องนะครับ
9.คลิ๊กที่ I agree to the Terms & Condition
10. คลิกที่ Join Now
** เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว ให้เข้าไปที่อีเมลล์ของเรา คลิ๊กยืนยันตัวตนที่ Link ดังรูป เพื่อ ยืนยัน E-mail เป็นอันเสร็จสิ้น


วิธีแปลงลิงค์ให้เป็น adf.ly ทำตามรูปครับ



อันนี้เป็นตัวอย่าง





สนใจสมัคร Adf.ly คลิ๊ก
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โหลดหนังมาสเตอร์ฟรี โหลดหนังไทย แผ่นมาสเตอร์ ฟรี



VCD MASTER THAI
0 ความคิดเห็น .
.
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

[Mediafire]แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมฑูต ภาค 2 [Soundtrack บรรยายไทย]

Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

มากมายหลายอย่าง

เทปบันทึก อุดรธานี พบ อยุธยา ( สนามอุดรธานี )


ชมวอลเลย์บอลลีก เกาหลี KGC W - IBK W









ชมวอลเลย์บอลลีก เกาหลี KGC W - IBK W 



















.
.
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

รัฐบาล ฟังเราบ้าง...' เสียงสุดท้ายก่อน 'สึนามิน้ำจืด' กลืนกรุงเทพ!!ถัดจากคลื่นน้ำ “สึนามิใหญ่” ที่คร่าชีวิตพี่น้องภาคใต้ไปมากมายเมื่อหลายปีก่อน !! ก็ม

รัฐบาล ฟังเราบ้าง...' เสียงสุดท้ายก่อน 'สึนามิน้ำจืด' กลืนกรุงเทพ!!ถัดจากคลื่นน้ำ “สึนามิใหญ่” ที่คร่าชีวิตพี่น้องภาคใต้ไปมากมายเมื่อหลายปีก่อน !! ก็มีครั้งนี้แหละที่ “น้ำ” สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทยทั้งประเทศ!!! โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ!!!
ในวันที่ประเทศไทยโดนมวลน้ำสามัคคีกันกระชับพื้นที่ศูนย์ กลางประเทศ ที่ไร้ซึ่งความสามัคคีแห่งนี้ ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำนอกจากถามวิธีแก้ไขที่จะไม่ทำให้กรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้าย ศูนย์กลางเศรษฐกิจประเทศไทยหยุดยั้งไม่ทำให้มันจมน้ำตายแล้ว
คำถามที่น่าใคร่ครวญ ก็คือพวกเราเดินทางมาถึงวิกฤติน้ำกลืนประเทศตรงนี้ได้อย่างไร...?
“ผม อดีตอธิบดีกรมอุตุฯ กับ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เจอกันทำงานด้วยกัน หลายอย่างที่เราแนะนำไปเขาก็ไม่เชื่อ ตอนนี้กำลังจะสาย ดังนั้นรัฐบาลต้องฟังเราบ้าง…!” ดร.สมิทธ กล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง และย้ำคำถามว่าเราเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
“ข้อ ผิดพลาดทั้งหมดมันเริ่มเพราะมันเกี่ยวกับการบริหารน้ำ ซึ่งไม่ใช่กรมชลฯกรมเดียว ทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทั้งหมด ผิดตรงที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ประมาณปริมาณน้ำฝนที่จะตก ในฤดูฝนนี้ มันจะมีพายุเข้ากี่ลูกแล้วปริมาณน้ำที่จะตกในต้นฤดูมีเท่าไหร่ กลางฤดู ปลายฤดูเท่าไหร่ แล้วการที่จะเก็บน้ำไว้ในเขื่อนตั้งแต่ต้นฤดูควรจะเก็บน้ำเอาไว้กี่ เปอร์เซ็นต์ของความจุของเขื่อน ไม่ใช่เก็บทีเดียวเต็มเขื่อนตั้งแต่ต้นฤดู เพราะหากกลางฤดูฝนตกมากกลางฤดูน้ำก็จะล้นเขื่อน พอล้นก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยน้ำ ที่สำคัญไม่ควรจะปล่อยออกมาพร้อมๆกันหลายเขื่อน เพราะปริมาณที่ปล่อยออกมาพร้อมกัน พื้นที่ประเทศไทยไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่ไหลออกมาพร้อมกันได้แน่นอน ทางแก้ไขก็คือควรจะปล่อยน้ำให้เป็นจังหวะ ให้มันไหลออกไปสู่ทะเลธรรมชาติตั้งแต่ต้นฤดู แล้วกลางฤดูก็ทำการป้องน้ำเอาไว้ในเขื่อนใหญ่ ปริมาณฝนที่ตกในกลางฤดูที่มันเพิ่มเติม ที่มันทำให้น้ำท่วมเก็บเอาไว้บ้างแล้วก็ไม่ปล่อยน้ำ น้ำก็ไม่ท่วมปลายฤดูนี่ก็เหมือนกัน แต่นี่ปลายฤดู ขนาดน้ำท่วมหลักๆ ก็ยังปล่อยมาวันละ 200-300 ล้านลูกบาศก์เมตร แบบนี้อยู่กันไม่ได้”
ดร.สมิ ทธบอกว่า เคยแนะนำเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรกๆ แต่ไม่มีใครเชื่อ ซึ่งหากเชื่อประเทศไทยก็ไม่เสียหายขนาดนี้ ซึ่งตนไม่ได้อวดอ้างก็ไม่ได้ว่ารู้คนเดียว แต่ได้ศึกษาค้นคว้ามามีประสบการณ์มา ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ต่างคนต่างทำต่างคิดต่างปล่อย แล้วก็ปล่อยน้ำจำนวนมหาศาลก็ไม่บอกกันด้วยว่าทำไมต้องปล่อยออมาจากทั้ง 3 เขื่อนใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วยังมีเชื่อนเล็กๆแถวนครราชสีมา ผมบอกว่าก็ควรจะปิดเขื่อนได้แล้ว น้ำท่วมภาคกลางแทบแย่แล้ว อยุธยา นครสวรรรค์ก็ควรจะปิดน้ำแล้ว เขื่อนไม่มีพังหรอก มันมีทางออกโดยอัตโนมัติเวลาน้ำขึ้นไปเต็มๆ มันก็ค่อยไหลออกมา แต่นี่ปล่อยลงมาเกินน้ำที่จะไหลออกมาตามธรรมชาติมันก็ท่วม”
ดร.สมิทธ วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เขาไม่สามารถนำ “ดรีมทีม” จัดการน้ำ เข้าไปช่วยวางแผนป้องกันน้ำท่วมได้ ก็เนื่องจากติดที่รัฐบาลไม่ชอบคนที่มาติความคิดของตัวเอง
“ตอนแรกเขา ก็ชวนเหมือนกัน แต่เนื่องจากผมไปติเขากรณีใช้เรือไล่น้ำ ก็เพราะไม่อยากให้เขาเอาพระราชดำริในหลวงมาใช้เรื่องการเมือง ที่พระองค์ทรงทำได้ผลก็เพราะว่าทำในคลองแคบๆ คลองลัดโพธิ์ เป็นคลองไม่แคบแล้วมันก็ไม่ลึกทำแล้วน้ำมันจะไหลแรงไหลเร็ว แต่พอมาทำตรงแม่น้ำเจ้าพระยามันกว้าง แล้วทำไปมันก็ไปผิวน้ำข้างบนเท่านั้น น้ำข้างล่างลึกๆไป 2-3 เมตรมันไม่เคลื่อนตัว เพราะใบจักรมันก็ไปไม่ถึง เปลืองน้ำมัน เปลืองพลังงานเปล่า พอไปติเขาก็อย่าเอามาทำงาน เพราะติมาก ผมทำกับอาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ก็ไม่โดนเชิญเข้าร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมประเทศในครั้งนี้”
ซึ่ง หากได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน ดร.สมิทธเสนอวิธีแก้ไขน้ำล้อมกรุงเทพฯ ศูนย์กลางของประเทศไทยบ้าง นอกจากการนั่งตาปริบๆ คอยน้ำกระชับพื้นที่
“มี ทางเดียวต้องระบายน้ำออกสู่ปลายคลองปลายแม่น้ำบางประกงออกทางคลอง สำโรง คลองแสนแสบ คลองจระเข้ แล้วก็ออกไปทางคลองด่าน ที่นั่นมีระบบระบายน้ำด้วยการสูบที่มีประสิทธิภาพมาก อีกที่หนึ่งก็ระบายน้ำออกไปทางแม่น้ำท่าจีนแล้วก็ระดมเครื่องสูบน้ำไปติด ตั้งที่นั่น “เครื่องสูบน้ำเป็นระบบเดียวที่สามารถระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ใช้ใบจักรเรือ” ตั้งเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ที่ปลายคลองปลายแม่น้ำ มันจะระบายออกเลยแล้วก็สูบออกตลอด 24 ชั่วโมง 2-3 อาทิตย์ก็แห้งแล้ว แต่ผมย้ำว่าต้องลงทุนเอาเครื่องสูบน้ำทั้งหมดไปช่วยกัน กรมชลประทานก็มีจุดระบายน้ำอยู่แล้วที่ปากคลองบางปะกงประสิทธิภาพมาก มีทั้งหมดเครื่อง 16-17 เครื่อง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง น้ำออกวันละหลายร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำแบบนี้ทุกคลองทุกแม่น้ำ 3- 4 อาทิตย์น่าจะแห้ง”
ดร.สมิทธ ย้ำว่า ทุกวันนี้แม้รัฐบาลไม่สนใจ แต่ทว่าตนเองกับอ.ปราโมทย์ไม่ได้อยู่นิ่ง ยังเจอกัน ทำงานกัน และมีการเตือนภัยไปยังประชาชนทุกวัน
“เราทำในฐานะมูลนิธิของเอกชน แต่จะให้ไปสอนรัฐบาลเขาก็น่าจะรับฟังเราบ้าง ซึ่งผมเสียดายความเสียหายเป็นแสนๆล้าน นี่ยังไม่รวมค่าที่ต้องซ่อมถนน มันเป็นเงินที่ไม่ควรเสีย แล้วใครจะรับผิดชอบแล้วความเสียหายทางเศรษฐกิจของพ่อค้าใครจะไปช่วย ผมได้รับสัมภาษณ์จากนสพ.นิวยอร์กไทมส์ กับเอพี เขาเป็นห่วงมากๆ แต่นี่ในศูนย์ป้องกันยังมีทะเลาะกันเลย บางคนก็บอกท่วม บางคนก็บอกไม่ท่วม คาดการณ์ผิดๆถูกๆจริงๆ ดังนั้นก็อยากจะให้รับฟังหน่วยงานที่เขาให้องค์ความรู้ได้ นี่ถ้าหยุดปล่อยน้ำตั้งแต่กลางฤดูฝน ฝนจะตกมาบ้างเขื่อนมันจะเต็มก็ให้มันไหลออกโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ปล่อยออกมาเยอะๆพร้อมๆกัน มันก็ท่วมกรุงเทพฯหมด”
ต่อจากนั้น ถ้าเขื่อนดินแตก 24 ชั่วโมง กรุงเทพฯ ก็ต้องรับชะตากรรม ถ้าไม่แตกความเสียหายจะน้อยลง แต่ถ้าแตกน้ำจะกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ
“สิ่ง หนึ่งที่ผมอยากพูดถึงก็คือคานกั้นน้ำที่ทำด้วยดิน ผมไม่เห็นด้วย เพราะดินแช่น้ำไปนานๆ มันก็เป็นเลน ความแข็งแรงไม่มี น้ำสูง 1 เมตรจะมีน้ำหนัก 1 ตัน สามารถจะดันเขื่อนดินไปอย่างสบายๆ กระสอบทรายมาวางก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งทำสูงยิ่งอันตราย ทำสูง 3 เมตร น้ำหนักของน้ำ 3 ตัน ฉะนั้นในเขื่อนที่ยิ่งทำยิ่งสูงนึกว่ายิ่งรอดไม่รอด ถ้าจะทำสูงอย่างนั้นสันเขื่อนก็ต้องกว้าง และต้องมีแก่นเขื่อนที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กลึกลงไป ถึงทำได้ นี่ไม่มีอะไรเลย”
สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนได้เห็นสภาพบ้านเมืองเสียหายเพราะ น้ำมากอย่างนี้
“ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่มีใครศึกษาโครงสร้างผังเมือง ณ วันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่เหมือนก่อน การที่ปล่อยน้ำมาจากเขื่อนออกมาเยอะๆ น้ำมันต้องท่วมแน่นอน แล้วสิ่งที่สำคัญ การสร้างนิคมอุตสาหกรรม สร้างสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งมันไปเป็นทางกั้นน้ำ ทำให้พอปล่อยทีเดียวมันก็ท่วม แม้ไม่มีฝนมันก็ท่วม ดังนั้นหลังจากนี้ต้องมีการศึกษาผังเมือง เอาข้อมูลต่างๆ มาใช้ร่วมกัน หน่วยงานที่ควบคุมน้ำของรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลที่แล้วมีอยู่ 20 กว่าหน่วยงาน ต่างคนก็ต่างมีอธิบดีของตัวเอง มีรองอธิบดี มีนักวิชาการของตัวเอง ก็ใช้ข้อมูลของตัวเองเป็นหลัก ไม่มีการเอาข้อมูลมารวมกันแล้วเอามาวินิจฉัย ผมพูดได้เต็มปากว่าหลายเดือนที่ผ่านมามันไม่มีเอกภาพ แล้วที่สำคัญเขาไม่เห็นคุณค่าประสบการณ์ของทั้งผมและอาจารย์ปราโมทย์ ถ้ารัฐบาลรู้จักใช้คนที่มีความรู้จริงๆ จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้
เปิดใจ ปราโมทย์ ไม้กลัด"เชื่อ ว่าการที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่ในครั้งนี้ หลังน้ำลดรัฐบาลควรจะต้องมีการหามาตรการแก้ปัญหาน้ำแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างเป็นรูปธรรมเสียที ไม่ควรปล่อยเอาไว้อีก เพราะในอนาคตหากไม่คิดแก้ไข ปัญหาก็จะกลับมาอีก อาจอีก 3 ปี 5 ปีข้างหน้า แต่งบประมาณมากแค่ไหนก็จะช่วยอะไรไม่ได้ หากไม่เข้าใจธรรมชาติการไหลของน้ำก็คงไม่เป็นผล ยิ่งหากพยายามสร้างอะไรขวางทางน้ำก็จะยิ่งแย่ ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ ต้องไม่ฝืนและต้องให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และต้องฉลาดในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งตนมีแผนงานอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะฟังหรือไม่" นายปราโมทย์ ไม้กลัด ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์Twitter : raydo_thairath .รัฐบาล ฟังเราบ้าง...' เสียงสุดท้ายก่อน 'สึนามิน้ำจืด' กลืนกรุงเทพ!!ถัดจากคลื่นน้ำ “สึนามิใหญ่” ที่คร่าชีวิตพี่น้องภาคใต้ไปมากมายเมื่อหลายปีก่อน !! ก็มีครั้งนี้แหละที่ “น้ำ” สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทยทั้งประเทศ!!! โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ!!!
ในวันที่ประเทศไทยโดนมวลน้ำสามัคคีกันกระชับพื้นที่ศูนย์ กลางประเทศ ที่ไร้ซึ่งความสามัคคีแห่งนี้ ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำนอกจากถามวิธีแก้ไขที่จะไม่ทำให้กรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้าย ศูนย์กลางเศรษฐกิจประเทศไทยหยุดยั้งไม่ทำให้มันจมน้ำตายแล้ว
คำถามที่น่าใคร่ครวญ ก็คือพวกเราเดินทางมาถึงวิกฤติน้ำกลืนประเทศตรงนี้ได้อย่างไร...?
“ผม อดีตอธิบดีกรมอุตุฯ กับ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เจอกันทำงานด้วยกัน หลายอย่างที่เราแนะนำไปเขาก็ไม่เชื่อ ตอนนี้กำลังจะสาย ดังนั้นรัฐบาลต้องฟังเราบ้าง…!” ดร.สมิทธ กล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง และย้ำคำถามว่าเราเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
“ข้อ ผิดพลาดทั้งหมดมันเริ่มเพราะมันเกี่ยวกับการบริหารน้ำ ซึ่งไม่ใช่กรมชลฯกรมเดียว ทุกๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทั้งหมด ผิดตรงที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ประมาณปริมาณน้ำฝนที่จะตก ในฤดูฝนนี้ มันจะมีพายุเข้ากี่ลูกแล้วปริมาณน้ำที่จะตกในต้นฤดูมีเท่าไหร่ กลางฤดู ปลายฤดูเท่าไหร่ แล้วการที่จะเก็บน้ำไว้ในเขื่อนตั้งแต่ต้นฤดูควรจะเก็บน้ำเอาไว้กี่ เปอร์เซ็นต์ของความจุของเขื่อน ไม่ใช่เก็บทีเดียวเต็มเขื่อนตั้งแต่ต้นฤดู เพราะหากกลางฤดูฝนตกมากกลางฤดูน้ำก็จะล้นเขื่อน พอล้นก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยน้ำ ที่สำคัญไม่ควรจะปล่อยออกมาพร้อมๆกันหลายเขื่อน เพราะปริมาณที่ปล่อยออกมาพร้อมกัน พื้นที่ประเทศไทยไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่ไหลออกมาพร้อมกันได้แน่นอน ทางแก้ไขก็คือควรจะปล่อยน้ำให้เป็นจังหวะ ให้มันไหลออกไปสู่ทะเลธรรมชาติตั้งแต่ต้นฤดู แล้วกลางฤดูก็ทำการป้องน้ำเอาไว้ในเขื่อนใหญ่ ปริมาณฝนที่ตกในกลางฤดูที่มันเพิ่มเติม ที่มันทำให้น้ำท่วมเก็บเอาไว้บ้างแล้วก็ไม่ปล่อยน้ำ น้ำก็ไม่ท่วมปลายฤดูนี่ก็เหมือนกัน แต่นี่ปลายฤดู ขนาดน้ำท่วมหลักๆ ก็ยังปล่อยมาวันละ 200-300 ล้านลูกบาศก์เมตร แบบนี้อยู่กันไม่ได้”
ดร.สมิ ทธบอกว่า เคยแนะนำเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรกๆ แต่ไม่มีใครเชื่อ ซึ่งหากเชื่อประเทศไทยก็ไม่เสียหายขนาดนี้ ซึ่งตนไม่ได้อวดอ้างก็ไม่ได้ว่ารู้คนเดียว แต่ได้ศึกษาค้นคว้ามามีประสบการณ์มา ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ต่างคนต่างทำต่างคิดต่างปล่อย แล้วก็ปล่อยน้ำจำนวนมหาศาลก็ไม่บอกกันด้วยว่าทำไมต้องปล่อยออมาจากทั้ง 3 เขื่อนใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วยังมีเชื่อนเล็กๆแถวนครราชสีมา ผมบอกว่าก็ควรจะปิดเขื่อนได้แล้ว น้ำท่วมภาคกลางแทบแย่แล้ว อยุธยา นครสวรรรค์ก็ควรจะปิดน้ำแล้ว เขื่อนไม่มีพังหรอก มันมีทางออกโดยอัตโนมัติเวลาน้ำขึ้นไปเต็มๆ มันก็ค่อยไหลออกมา แต่นี่ปล่อยลงมาเกินน้ำที่จะไหลออกมาตามธรรมชาติมันก็ท่วม”
ดร.สมิทธ วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เขาไม่สามารถนำ “ดรีมทีม” จัดการน้ำ เข้าไปช่วยวางแผนป้องกันน้ำท่วมได้ ก็เนื่องจากติดที่รัฐบาลไม่ชอบคนที่มาติความคิดของตัวเอง
“ตอนแรกเขา ก็ชวนเหมือนกัน แต่เนื่องจากผมไปติเขากรณีใช้เรือไล่น้ำ ก็เพราะไม่อยากให้เขาเอาพระราชดำริในหลวงมาใช้เรื่องการเมือง ที่พระองค์ทรงทำได้ผลก็เพราะว่าทำในคลองแคบๆ คลองลัดโพธิ์ เป็นคลองไม่แคบแล้วมันก็ไม่ลึกทำแล้วน้ำมันจะไหลแรงไหลเร็ว แต่พอมาทำตรงแม่น้ำเจ้าพระยามันกว้าง แล้วทำไปมันก็ไปผิวน้ำข้างบนเท่านั้น น้ำข้างล่างลึกๆไป 2-3 เมตรมันไม่เคลื่อนตัว เพราะใบจักรมันก็ไปไม่ถึง เปลืองน้ำมัน เปลืองพลังงานเปล่า พอไปติเขาก็อย่าเอามาทำงาน เพราะติมาก ผมทำกับอาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ก็ไม่โดนเชิญเข้าร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมประเทศในครั้งนี้”
ซึ่ง หากได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน ดร.สมิทธเสนอวิธีแก้ไขน้ำล้อมกรุงเทพฯ ศูนย์กลางของประเทศไทยบ้าง นอกจากการนั่งตาปริบๆ คอยน้ำกระชับพื้นที่
“มี ทางเดียวต้องระบายน้ำออกสู่ปลายคลองปลายแม่น้ำบางประกงออกทางคลอง สำโรง คลองแสนแสบ คลองจระเข้ แล้วก็ออกไปทางคลองด่าน ที่นั่นมีระบบระบายน้ำด้วยการสูบที่มีประสิทธิภาพมาก อีกที่หนึ่งก็ระบายน้ำออกไปทางแม่น้ำท่าจีนแล้วก็ระดมเครื่องสูบน้ำไปติด ตั้งที่นั่น “เครื่องสูบน้ำเป็นระบบเดียวที่สามารถระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ใช้ใบจักรเรือ” ตั้งเครื่องปั๊มขนาดใหญ่ที่ปลายคลองปลายแม่น้ำ มันจะระบายออกเลยแล้วก็สูบออกตลอด 24 ชั่วโมง 2-3 อาทิตย์ก็แห้งแล้ว แต่ผมย้ำว่าต้องลงทุนเอาเครื่องสูบน้ำทั้งหมดไปช่วยกัน กรมชลประทานก็มีจุดระบายน้ำอยู่แล้วที่ปากคลองบางปะกงประสิทธิภาพมาก มีทั้งหมดเครื่อง 16-17 เครื่อง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง น้ำออกวันละหลายร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำแบบนี้ทุกคลองทุกแม่น้ำ 3- 4 อาทิตย์น่าจะแห้ง”
ดร.สมิทธ ย้ำว่า ทุกวันนี้แม้รัฐบาลไม่สนใจ แต่ทว่าตนเองกับอ.ปราโมทย์ไม่ได้อยู่นิ่ง ยังเจอกัน ทำงานกัน และมีการเตือนภัยไปยังประชาชนทุกวัน
“เราทำในฐานะมูลนิธิของเอกชน แต่จะให้ไปสอนรัฐบาลเขาก็น่าจะรับฟังเราบ้าง ซึ่งผมเสียดายความเสียหายเป็นแสนๆล้าน นี่ยังไม่รวมค่าที่ต้องซ่อมถนน มันเป็นเงินที่ไม่ควรเสีย แล้วใครจะรับผิดชอบแล้วความเสียหายทางเศรษฐกิจของพ่อค้าใครจะไปช่วย ผมได้รับสัมภาษณ์จากนสพ.นิวยอร์กไทมส์ กับเอพี เขาเป็นห่วงมากๆ แต่นี่ในศูนย์ป้องกันยังมีทะเลาะกันเลย บางคนก็บอกท่วม บางคนก็บอกไม่ท่วม คาดการณ์ผิดๆถูกๆจริงๆ ดังนั้นก็อยากจะให้รับฟังหน่วยงานที่เขาให้องค์ความรู้ได้ นี่ถ้าหยุดปล่อยน้ำตั้งแต่กลางฤดูฝน ฝนจะตกมาบ้างเขื่อนมันจะเต็มก็ให้มันไหลออกโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ปล่อยออกมาเยอะๆพร้อมๆกัน มันก็ท่วมกรุงเทพฯหมด”
ต่อจากนั้น ถ้าเขื่อนดินแตก 24 ชั่วโมง กรุงเทพฯ ก็ต้องรับชะตากรรม ถ้าไม่แตกความเสียหายจะน้อยลง แต่ถ้าแตกน้ำจะกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ
“สิ่ง หนึ่งที่ผมอยากพูดถึงก็คือคานกั้นน้ำที่ทำด้วยดิน ผมไม่เห็นด้วย เพราะดินแช่น้ำไปนานๆ มันก็เป็นเลน ความแข็งแรงไม่มี น้ำสูง 1 เมตรจะมีน้ำหนัก 1 ตัน สามารถจะดันเขื่อนดินไปอย่างสบายๆ กระสอบทรายมาวางก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งทำสูงยิ่งอันตราย ทำสูง 3 เมตร น้ำหนักของน้ำ 3 ตัน ฉะนั้นในเขื่อนที่ยิ่งทำยิ่งสูงนึกว่ายิ่งรอดไม่รอด ถ้าจะทำสูงอย่างนั้นสันเขื่อนก็ต้องกว้าง และต้องมีแก่นเขื่อนที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กลึกลงไป ถึงทำได้ นี่ไม่มีอะไรเลย”
สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนได้เห็นสภาพบ้านเมืองเสียหายเพราะ น้ำมากอย่างนี้
“ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่มีใครศึกษาโครงสร้างผังเมือง ณ วันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่เหมือนก่อน การที่ปล่อยน้ำมาจากเขื่อนออกมาเยอะๆ น้ำมันต้องท่วมแน่นอน แล้วสิ่งที่สำคัญ การสร้างนิคมอุตสาหกรรม สร้างสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งมันไปเป็นทางกั้นน้ำ ทำให้พอปล่อยทีเดียวมันก็ท่วม แม้ไม่มีฝนมันก็ท่วม ดังนั้นหลังจากนี้ต้องมีการศึกษาผังเมือง เอาข้อมูลต่างๆ มาใช้ร่วมกัน หน่วยงานที่ควบคุมน้ำของรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลที่แล้วมีอยู่ 20 กว่าหน่วยงาน ต่างคนก็ต่างมีอธิบดีของตัวเอง มีรองอธิบดี มีนักวิชาการของตัวเอง ก็ใช้ข้อมูลของตัวเองเป็นหลัก ไม่มีการเอาข้อมูลมารวมกันแล้วเอามาวินิจฉัย ผมพูดได้เต็มปากว่าหลายเดือนที่ผ่านมามันไม่มีเอกภาพ แล้วที่สำคัญเขาไม่เห็นคุณค่าประสบการณ์ของทั้งผมและอาจารย์ปราโมทย์ ถ้ารัฐบาลรู้จักใช้คนที่มีความรู้จริงๆ จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้
เปิดใจ ปราโมทย์ ไม้กลัด"เชื่อ ว่าการที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่ในครั้งนี้ หลังน้ำลดรัฐบาลควรจะต้องมีการหามาตรการแก้ปัญหาน้ำแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่างเป็นรูปธรรมเสียที ไม่ควรปล่อยเอาไว้อีก เพราะในอนาคตหากไม่คิดแก้ไข ปัญหาก็จะกลับมาอีก อาจอีก 3 ปี 5 ปีข้างหน้า แต่งบประมาณมากแค่ไหนก็จะช่วยอะไรไม่ได้ หากไม่เข้าใจธรรมชาติการไหลของน้ำก็คงไม่เป็นผล ยิ่งหากพยายามสร้างอะไรขวางทางน้ำก็จะยิ่งแย่ ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ ต้องไม่ฝืนและต้องให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และต้องฉลาดในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งตนมีแผนงานอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะฟังหรือไม่" นายปราโมทย์ ไม้กลัด ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์Twitter : raydo_thairath
.
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

ความฝัน เกิดจากอะไร

ความฝัน....เกิดขึ้นได้จากเหตุ ๔ ประการ

๑. ปุพพนิมิต ด้วยอำนาจแห่งกุศลธรรม หรืออกุศลธรรม ที่ตนได่เคยทำไว้แล้วแต่อดีต ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะให้ผล เป็นความสุข ความทุกข์นั้น อำนาจแห่งกุศลธรรม หรืออกุศลธรรมนั้น มีกำลังแรงมากระตุ้นใจ ใหเกิดเป็นความฝันขึ้นก่อน ที่จะได้รับผลของกรรมนั้นได้

ความฝันที่เกิดจากอำนาจของกรรมนี้ เรียกว่า "ปุพพนิมิต" หรือ เรียกว่า "กรรมนิมิต" เป็นความฝันประการเดียว ที่จะบอกเหตุการณ์ในฝันว่า เป็นจริงดังฝันอย่างแน่นอน

๒. จิตอาวรณ์ ด้วยอำนาจของจิตหน่วงเอาอารมณ์ที่ตนได้เห็น ได้ยิน หรือได้พบมาแล้ว เก็บเอาอารมณ์นั้นมาฝัน ความฝันชนิดนี้ เกิดด้วยจิตใจจดจ่อ ผูกพันอารมณ์นั้นเป็นพิเศษ จึงเรียกว่าเกิดจาก "จิตอาวรณ์" ฝันชนิดนี้เอาเป็นที่แน่นอนไม่ได้

๓. เทพสังหรณ์ ด้วยอำนาจเทวดามาบอกเหตุร้าย เหตุดี ชี้นิมิตฝันให้ปรากฏ ความฝันจากเหตุนี้เป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ไม่แน่นอน ถ้าเทวดาสัมมาทิฏฐิ ที่มีความรักใคร่ ปราถนาจะสงเคราะห์ก็บอกสิ่งที่เป็นจริงให้ ถ้ามิจฉาทิฏฐิเทวดา เกลียดชังปราถนาจะให้ได้รับทุกขภัย ก็บอกลวงให้ไม่เป็นความจริง สุดแท้แต่ผู้นั้นจะเป็นที่รัก หรือชัง แห่งเทวดานั้น

๔. ธาตุกำเริบ บุคคลที่ธาตุกำเริบ เช่นท้องใส้ไม่ปกติ ก็ทำให้ฝันไปต่างๆนาๆได้ เพราะขณะนอนหลับนั้น ย่อมหลับไม่สนิท เพราะเหตุธาตุกำเริบ จึงทำให้ฝัน ความฝันอย่างนี้เอาเป็นจริงไม่ได้

เหตุทั้ง ๔ ประการ คือ" ปุพพนิมิต จิตอาวรณ์ เทพสังหรณ์ ธาตุกำเริบ" เป็นมูลเหตุแก่สุบินนิมิตก็จริง แต่ว่าถึงมูลเหตุอันแท้จริง ที่เป็นเหตุไกลออกไปแล้ว ย่อมได้แก่"วิปลาสธรรม" มี "สัญญา วิปลาส" เป็นต้น

พระอรหันต์ขีณาสวะ "ผู้ปราศจากวิปลาส"ใดๆแล้ว จึงมิได้มีความฝันแต่ประการใด....
.
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

ความฝัน....เกิดขึ้นได้จากเหตุ ๔ ประการ

.
.ความฝัน....เกิดขึ้นได้จากเหตุ ๔ ประการ ๑. ปุพพนิมิต ด้วยอำนาจแห่งกุศลธรรม หรืออกุศลธรรม ที่ตนได่เคยทำไว้แล้วแต่อดีต ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะให้ผล เป็นความสุข ความทุกข์นั้น อำนาจแห่งกุศลธรรม หรืออกุศลธรรมนั้น มีกำลังแรงมากระตุ้นใจ ใหเกิดเป็นความฝันขึ้นก่อน ที่จะได้รับผลของกรรมนั้นได้ ความฝันที่เกิดจากอำนาจของกรรมนี้ เรียกว่า "ปุพพนิมิต" หรือ เรียกว่า "กรรมนิมิต" เป็นความฝันประการเดียว ที่จะบอกเหตุการณ์ในฝันว่า เป็นจริงดังฝันอย่างแน่นอน ๒. จิตอาวรณ์ ด้วยอำนาจของจิตหน่วงเอาอารมณ์ที่ตนได้เห็น ได้ยิน หรือได้พบมาแล้ว เก็บเอาอารมณ์นั้นมาฝัน ความฝันชนิดนี้ เกิดด้วยจิตใจจดจ่อ ผูกพันอารมณ์นั้นเป็นพิเศษ จึงเรียกว่าเกิดจาก "จิตอาวรณ์" ฝันชนิดนี้เอาเป็นที่แน่นอนไม่ได้ ๓. เทพสังหรณ์ ด้วยอำนาจเทวดามาบอกเหตุร้าย เหตุดี ชี้นิมิตฝันให้ปรากฏ ความฝันจากเหตุนี้เป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ไม่แน่นอน ถ้าเทวดาสัมมาทิฏฐิ ที่มีความรักใคร่ ปราถนาจะสงเคราะห์ก็บอกสิ่งที่เป็นจริงให้ ถ้ามิจฉาทิฏฐิเทวดา เกลียดชังปราถนาจะให้ได้รับทุกขภัย ก็บอกลวงให้ไม่เป็นความจริง สุดแท้แต่ผู้นั้นจะเป็นที่รัก หรือชัง แห่งเทวดานั้น ๔. ธาตุกำเริบ บุคคลที่ธาตุกำเริบ เช่นท้องใส้ไม่ปกติ ก็ทำให้ฝันไปต่างๆนาๆได้ เพราะขณะนอนหลับนั้น ย่อมหลับไม่สนิท เพราะเหตุธาตุกำเริบ จึงทำให้ฝัน ความฝันอย่างนี้เอาเป็นจริงไม่ได้ เหตุทั้ง ๔ ประการ คือ" ปุพพนิมิต จิตอาวรณ์ เทพสังหรณ์ ธาตุกำเริบ" เป็นมูลเหตุแก่สุบินนิมิตก็จริง แต่ว่าถึงมูลเหตุอันแท้จริง ที่เป็นเหตุไกลออกไปแล้ว ย่อมได้แก่"วิปลาสธรรม" มี "สัญญา วิปลาส" เป็นต้น พระอรหันต์ขีณาสวะ "ผู้ปราศจากวิปลาส"ใดๆแล้ว จึงมิได้มีความฝันแต่ประการใด...
.
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

graphane

นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัย San Diego มหาวิทยาลัย Columbia
และศูนย์วิจัยแห่งชาติ Lawrence Berkeley ได้เปิดเผยความลับใหม่เกี่ยวกับคุณสมบัติของ graphane ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของธาตุคาร์บอนบริสุทธิ์
โดยในอนาคตอาจจะใช้แทนที่ซิลิกอน ในคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ
หรืออุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ทั่วไปได้ โดยทดสอบจากเครื่องกำเนิดแหล่งแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานมากที่สุดชนิดหนึ่งที่มนุษย์ผลิตได้เลยทีเดียว





Graphane มีโครงสร้างเป็นธาตุคาร์บอนล้วนที่มีการจัดเรียงตัวเป็นชั้น
ๆ โดยแต่ละชั้นมีความหนาเพียง 1 อะตอมและมีโครงสร้างในแนวระนาบเป็นช่องว่างรูปรวงผึ้ง
ทำให้มีคุณประโยชน์มากมายที่เหนือกว่าซิลิกอน
เพราะว่ามันเป็นตัวนำไฟฟ้าที่มีความโปร่งใส ดังนั้น graphane จึงสามารถนำไปแทนที่ Liquid Crystal Displays (LCDs) ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้ โดย LCDs นั้น
ถูกผลิตมาจากฟิล์มของ metal-oxide ที่บาง เช่น ธาตุ Indium
ซึ่งเป็นโลหะที่หายากและจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ
และจะเกิดภาวะขาดแคลนในเวลาไม่เกิน 10 ปีต่อจากนี้





ปัญหาของนักวิทยาศาสตร์คือ ยังไม่มีความรู้มากพอเกี่ยวกับคุณสมบัติด้านการมองเห็นและไฟฟ้าของ graphane ซึ่งถูกค้นพบมาเมื่อ 4 ปีที่แล้วนี้เอง
ซึ่งมีรูปแบบทาง spectrum (spectroscopy) ที่ค้านกับรูปแบบทั่วไปอยู่





ทีมวิจัยได้ใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความล้ำสมัยสูง (Advanced Light Source:
ALS) ในศูนย์วิจัย Berkeley
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังงานสูงที่สุด
โดยสร้างคลื่นในช่วง infrared ถึง X-ray ได้ เพื่อนำมาพิสูจน์ความลับของ graphane นี้
และพบว่า electron ใน graphane เกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง
นอกจากจะเกิดในระนาบเดียวกันของช่องว่างรูปรังผึ้งแล้ว
ยังพบระหว่างแต่ละชั้นของอะตอมด้วยกันอีกด้วย





การทดลองทางด้านรังสี infrared และการมองเห็น
สามารถช่วยสร้างความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสมบัติทางไฟฟ้าของ graphane
ได้ โดยเฉพาะปฏิกิริยาระหว่าง electrons ที่อยู่ใน graphane นั่นเอง





แต่ในการวัดการดูดกลืนแสงในแต่ละชั้นอะตอมผลึกเดี่ยวของ graphane มีความยากมาก เพราะแสงจะไม่ถูกดูดกลืนมากนัก
การที่จะวัดได้ต้องเริ่มจากการใช้แสงที่มีความสว่างมากๆ
ทำให้การวัดเกินขีดความจำกัดด้าน spectroscopy
ต่อท้าย #1 13 พ.ค. 2553, 23:36:52
รังสีที่กำเนิดจากเครื่อง ALS จะมีความสว่างมากกว่าแสงที่เกิดจากหลอดรังสี X-ray ที่มีพลังงานสูงสุดซึ่งใช้ในงานด้านทันตกรรม ถึง 100
ล้านเท่า ความสว่างสูงๆ
หมายความว่า รังสีจะมีความเข้มสูงและมีการยิง photon จำนวนมากๆต่อวินาทีไปยังบริเวณเล็กจิ๋วของวัสดุนั้นๆ





ทันตแพทย์จะใช้รังสี X-ray เพื่อมองเข้าไปภายในบริเวณเหงือก
แต่เครื่องกำเนิดรังสี ALS นั้นจะมีการเร่งอนุภาคของ electrotrons
ให้วิ่งเป็นวงกลมรอบๆ โดยมีความเร็วใกล้กับความเร็วแสง
เพื่อให้มองเห็นภายในวัสดุได้ (หลักการคล้ายกับเครื่องเร่งอนุภาคนั่นเอง)
ซึ่งการวัดผลในการทดลองทำด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีความซับซ้อนมากในการวัด














Zhiqiang
Li นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย San Diego
เป็นคนแรกที่ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นนี้
ส่วนงานวิจัยอื่นที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินการโดย Michael Martin นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยแห่งชาติ Berkeley
นอกจากนี้ยังมี Philip Kim รองศาสตราจารย์
จากมหาวิทยาลัย Columbia และ Horst Stormer ศาสตราจารย์จาก Columbia เช่นกันซึ่งเป็นผู้ที่ได้เคยรับรางวัลโนเบลในปี 1998 สาขาฟิสิกส์





กองทุนสนับสนุนงานวิจัยได้จาก กระทรวงพลังงาน สหรัฐฯ (U.S. Department of Energy:
D.O.E.)
ต่อท้าย #2 13 พ.ค. 2553, 23:37:00
http://www.vcharkarn.com/vnews/147074
.
Life Insurance Knowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies

Autodesk 3ds max

Autodesk 3ds Max 2012 โปรแกรมสร้างและระบายสีโมเดล 3 มิติ

www.twoplussoft.com/Autodesk+3ds+Max/index.html - แคช
โปรแกรมการสร้างโมเดล 3 มิติและระบายสีภาพให้เสมือนจริง พร้อมสร้างภาพเคลื่อนไหว
.

Autodesk 3ds Max 2012 โปรแกรมสร้างและระบายสีโมเดล 3 มิติ

www.twoplussoft.com/Autodesk+3ds+Max/index.html - แคช
โปรแกรมการสร้างโมเดล 3 มิติและระบายสีภาพให้เสมือนจริง พร้อมสร้างภาพเคลื่อนไหว

Autodesk 3ds Max 2012 โปรแกรมสร้างและระบายสีโมเดล 3 มิติ

www.twoplussoft.com/Autodesk+3ds+Max/index.html - แคช
โปรแกรมการสร้างโมเดล 3 มิติและระบายสีภาพให้เสมือนจริง พร้อมสร้างภาพเคลื่อนไหว

Autodesk 3ds Max 2012 โปรแกรมสร้างและระบายสีโมเดล 3 มิติ

www.twoplussoft.com/Autodesk+3ds+Max/index.html - แคช
โปรแกรมการสร้างโมเดล 3 มิติและระบายสีภาพให้เสมือนจริง พร้อมสร้างภาพเคลื่อนไหว

Life Insurance

Autodesk 3ds Max 2012 โปรแกรมสร้างและระบายสีโมเดล 3 มิติ

www.twoplussoft.com/Autodesk+3ds+Max/index.html - แคช
โปรแกรมการสร้างโมเดล 3 มิติและระบายสีภาพให้เสมือนจริง พร้อมสร้างภาพเคลื่อนไหวKnowledge:Life Insurance , private, death, employee pensions and annuities,life insurance, educational, life insurance companies